เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (28 ม.ค.) พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผบช.ทัพเรือภาคที่ 3 สั่งการให้นำเฮลิคอปเตอร์ดอร์เนียลำเลียงและกู้ภัย พร้อมเรือตรวจการณ์ 218 ออกค้นหาเรือประมงพื้นบ้านพร้อมลูกเรือ 3 คนที่สูญหายระหว่างออกหาปลาที่บริเวณเกาะแก้วพิสดารกับเกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม หลังได้รับแจ้งจาก นางสุภาภรณ์ สาธร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/62 หมู่บ้านสะพานหิน ซ.6 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต ภรรยานายสรรชัย ปิ่นเมฆ อายุ 35 ปี 1 ใน 3 ลูกเรือลำดังกล่าวที่สูญหายไป โดยได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ออกบินค้นหาและตรวจสอบบริเวณน่านน้ำอันดามันตามพิกัดที่ภรรยาของนายสรรชัยและญาติๆระบุ รวมไปถึงเรือตรวจการณ์ 218 กว่า 2 ชม.แต่ไร้วี่แววของเรือประมงพื้นบ้านลำดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าอาจถูกคลื่นลมที่กรรโชกพัดเข้าน่านน้ำสากล ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งกว่า 20 ไมล์ทะเล ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงของเรือหมดและขาดการติดต่อในที่สุด ซึ่งกองทัพเรือภาคที่ 3 จะส่งเรือตรวจการณ์และเฮลิคอปเตอร์ออกค้นหาอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะพบ
ขณะที่ นางสุภาภรณ์ สาธร พร้อมด้วย นางเกษร รอบคอบ อายุ 50 ปีภรรยา นายประวิน สั่งสอน อายุ 26 ปี 1 ใน 3 ลูกเรือประมงพื้นบ้านที่หายไปกลางทะเลอันดามันและญาติๆกว่า 20 คนได้เดินทางไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอพรให้คุ้มครองลูกเรือทั้ง 3 ให้รอดปลอดภัยจากภัยอันตรายจากกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือ "เสด็จเตี๋ย" ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน ถ.ภูเก็ต อ.เมืองภูเก็ต โดย นางสุภากรณ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา นายสรรชัยสามีพร้อมด้วย นายประวิน สั่งสอน อายุ 26 ปี และ นายชูศักดิ์ แซ่อึ้ง อายุ 36 ปีไต๋เรือได้นำเรือหางยาวขนาดเล็กวางเครื่องท้องเรือออกจากท่าเรือประมงพื้นบ้านข้างเตาเผาขยะ คลองเกาะผี อ.เมืองภูเก็ต เพื่อออกหาปลาตามปกติ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา สามี-ลูกเรืออีก 2 คนพร้อมด้วยเรือยังไม่มีวี่แววจะกลับมาถึงฝั่งหรือท่าเรือ จึงเห็นท่าไม่ดี ซึ่งคงต้องเกิดเหตุร้ายกับสามีและเพื่อนอย่างแน่นอน จึงขอความช่วยเหลือจากทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อออกค้นหา แต่ก็ไร้วี่แวว จนเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 ม.ค.ตนเองพร้อมด้วยนางเกษรภรรยานายประวินและญาติๆได้เข้าพบ ผบช.ทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อติดตามความคืบหน้าในการค้นหาสามีและเรือประมงลำดังกล่าว
"ปกติแล้วสามีและเพื่อนจะนำเรือประมงออกหาปลาแถวเกาะแก้วพิสดารและเกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งแต่ละครั้งจะออกหาปลา 2-3 วันก็จะกลับมาถึงฝั่ง แต่ครั้งนี้ออกเรือไปตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.จนถึงวันนี้เวลาล่วงเลยไปแล้ว 6 วัน 7 คืน ซึ่งเชื่อว่าเรือหางยาวของสามีและเพื่อนๆอาจถูกคลื่นลมที่ช่วงนี้แรงพัดออกไปยังน่านน้ำสากล ซึ่งห่างจากฝั่งมาก ทำให้น้ำมันหมดและไม่สามารถนำเรือกลับเข้าฝั่งได้ โดยยังเชื่อมั่นว่าสามีและเพื่อนยังไม่ชีวิตอยู่ แต่ติดต่อกันไม่ได้ ซึ่งได้ขอพรจากเสด็จเตี๋ยที่พวกเราชาวประมงเคารพนับถือคุ้มครองสามีและเพื่อนๆให้รอดปลอดภัยและกลับเข้าฝั่งได้ในที่สุดด้วย"
ภาพข่าวโดย : กอล์ฟ ไทยรัฐ
Posted by : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น