วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

"อภิชาต" ดิ้นไม่ออก จำใจชี้ยุบ ปชป.ก่อนเสนอ กกต.


ที่ปรึกษากฎหมาย กกต.เคาะให้ "อภิชาต" วินิจฉัยเงินบริจาค ปชป.258 ล้านบาทก่อน เสนอที่ประชุม กกต.มีมติอีกรอบ ขณะที่เป็นความผิดตาม กม.เก่าก็สามารถใช้ กม.ใหม่เล่นงานได้

วันนี้ (27 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสียงข้างมากมีมติให้ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองไปมีความเห็นกรณีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท และนายอภิชาตได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษานั้น ปรากฎว่าคณะทำงานได้มีการประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุป ขณะเดียวกันก็มีประเด็นปัญหากฎหมาย ซึ่งนายอภิชาตก็ได้นำปัญหาดังกล่าวส่งให้คณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต.พิจารณารวม 3 ประเด็น ประกอบด้วย ความผิดที่มีการกล่าวหานั้นเกิดขึ้นตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองปี 2541 แต่ขณะนี้กฎหมายที่ใช้บังคับเป็น พ.ร.บ.พรรคการเมือง 2550 ดังนั้นจะสามารถเอาผิดได้หรือไม่

กรณีดังกล่าว กกต.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวน ดังนั้นถือเป็นอำนาจที่ กกต.ต้องมติเลยได้หรือไม่ โดยไม่ต้องให้นายทะเบียนมีความเห็น และกรอบการดำเนินการของ กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นอย่างไร ซึ่งระหว่างรอการพิจารณาของคณะที่ปรึกษาฯ ทางคณะทำงานก็ไม่ได้มีการนัดประชุมโดยให้กรรมการแต่ละคนไปศึกษาสำนวน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า คณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต.ได้พิจารณาและมีความเห็นในประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าวแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยประเด็นที่มีการถกเถียงมาก เป็นเรื่องกรอบอำนาจของ กกต.กับนายทะเบียนพรรคการเมืองที่มองว่า เมื่อพิจารณา พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 93, 94 และ 95 ระบุชัดให้การเสนอความผิด เรื่องยุบพรรคที่ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย เป็นหน้าที่ของนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่ต้องมีความเห็นก่อนแล้วจึงเสนอ กกต.เห็นชอบ ส่วนที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองปี 41 แม้ขณะนี้กฎหมายที่ใช้บังคับเป็น พ.ร.บ.พรรคการเมืองปี 50 ก็เห็นว่า สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากไม่ได้มีอะไรแตกต่างมากประกอบกับศาลรัฐธรรมนูญก็เคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้วคราวยุบพรรคไทยรักไทย

ส่วนที่ที่ประชุม กกต.เป็นผู้ตั้งอนุกรรมการนั้นก็มองว่า การตั้งอนุกรรมการสอบสวนของกกต.ถือเป็นเพียงการอนุญาต ให้มีการตั้งคณะกรรมการหรืออนุกรรมการขึ้นมาสอบให้ได้ข้อเท็จจริงเท่านั้น ทั้งนี้ คณะที่ปรึกษากฎหมาย กกต.จะนำเสนอความเห็นดังกล่าวให้กับนายอภิชาต หลังจากที่เดินทางกลับจากการประชุมนานาชาติที่ประเทศอินเดียระหว่างวันที่ 24-28 ม.ค.นี้ เพื่อส่งให้คณะทำงานที่คาดว่าจะประชุมในวันที่ 29 ม.ค.นี้ ...

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

Posted by : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น