ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกิดเหตุเปิดเป็นโรงแรมม่านรูดอยู่บริเวณกลางซอยดังกล่าว และที่ห้องสุดท้ายพบรถโตโยต้าแลนด์ครูซเซอร์ สีดำ ทะเบียน กต 6807 ภูเก็ต จอดอยู่ และที่ข้างรถคันดังกล่าวมีสายตรวจควบคุมตัวชายหญิงคู่หนึ่งไว้ ทราบชื่อคือ นายจีรวัตร์ ชัยนาคิน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/1 หมู่ 3 ต.เคียนซา อ.เคียนซา จ.สุราษฏร์ธานี ส่วนหญิงสาวทราบชื่อคือ น.ส.สุทธิกา แซ่โก้ย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/5 ถ.ดำรง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยภายในห้องพบศพชายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำนอนหงายจมกองเลือดอยู่ที่พื้นห้องข้างเตียงนอนมีมีดปักอยู่ที่กลางอกเหนือนมด้านซ้าย โดยที่ศีรษะมีบาดแผลแตกหลายจุด ทราบชื่อคือ นายวาสนา ไชยราบ หรือที่เรียกกันว่า "สท.หลี่" อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/78 หมู่ 7 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต สมาชิกสภาเทศบาลเมืองกะทู้ เขต 3 ทีมกะทู้พัฒนา จากการตรวจสอบภายในห้องพบคราบเลือดกระจายไปทั่วบริเวณ ทั้งผนังหน้าห้องน้ำและผนังข้างโต๊ะเครื่องแป้ง โดยที่พื้นห้องตั้งแต่หน้าห้องน้ำไปจนถึงศพมีคราบเลือดรอยลากเป็นทางยาว ข้างเตียงนอนพบท่อนเหล็กเปื้อนคราบเลือดตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งทำบันทึกสถานที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่ง รพ.วชิระ เพื่อให้แพทย์เวรได้ทำการชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวน นายจีรวัตร์ฯ และ น.ส.สุทธิกาฯ เบื้องต้นได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ อาร์ซี 100 สีแดง ทะเบียน ฌ 407 ภูเก็ตเข้ามาเปิดห้องที่โรงแรมดังกล่าว จากนั้นพนักงานก็ได้มาเปิดห้องให้ที่ห้องหมายเลข 030 และเมื่อทั้ง 2 ได้เข้าไปภายในห้อง นายจีรวัตร์ก็ได้ให้น.ส.สุทธิกา โทรหานายวาสนามาเคลียร์ปัญหารักสามเส้ากันที่ห้องดังกล่าว สักครู่ใหญ่นายวาสนาได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวเข้ามาจอดที่ช่องจอดรถพร้อมกับเดินเข้าไปภายในห้อง จากนั้นได้มีการพูดคุยกัน โดยมีการโต้เถียงกันจนเสียงดังลั่น ทำให้พนักงานของโรงแรมที่ดูแลห้องพักเดินมาดู และได้มีเสียงคล้ายต่อสู้กันภายในห้อง สักพัก น.ส.สุทธิกาได้วิ่งออกมาหน้าตาแตกตื่น ทำให้พนักงานเห็นท่าไม่ดีจึงได้โทรแจ้งตำรวจ แต่ก่อนที่สายตรวจกำลังจะมาถึง นายจีรวัตร์ได้เข็นรถ จยย.คันดังกล่าวออกมาจากช่องจอดรถ โดยมี น.ส.สุทธิกากำลังจะขึ้นคร่อมซ้อน แต่ตำรวจสายตรวจขี่รถ จยย.เข้ามาพอดี และได้ควบคุมตัวไว้ พร้อมกับเข้าไปตรวจสอบภายในห้อง พบว่านายวาสนาถูกมีดปักคาอกนอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นห้องแล้ว
สำหรับ นายวาสนา ไชยราบ ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เขต 3 ทีมกะทู้พัฒนา ซึ่งนำทีมชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 51 และเคยเป็น สท.มาแล้ว 2 สมัยหรือ 8 ปี โดยเคยมีความสัมผัสกับ น.ส.สุทธิกาเมื่อหลายปีก่อน จนมีลูกฝาแฝดด้วยกัน จากนั้นได้เลิกลากันไป โดยนายวาสนาได้ไปมีครอบครัวใหม่ แต่ น.ส.สุทธิกายังคงโทรติดต่อนายวาสนาอยู่เป็นระยะๆ จนกระทั่งเมื่อหลายเดือนก่อน น.ส.สุทธิการู้จักกับนายจีรวัตร์และคบหากันมา จน น.ส.สุทธิกาตั้งท้องได้ 4 เดือน แต่นายจีรวัตร์มารู้ภายหลังว่า น.ส.สุทธิกายังคงแอบติดต่อกับนายวาสนาอยู่ จึงเกิดความไม่พอใจและต้องการที่จะเคลียร์ปัญหากับนายวาสนาให้จบสิ้น โดยไม่ต้องการให้มายุ่งเกี่ยวกับ น.ส.สุทธิกาอีกต่อไป จึงให้ขี่รถ จยย.คันดังกล่าวมาเปิดห้องแล้วให้ น.ส.สุทธิกาโทรนัดกับนายวาสนามาที่ห้องดังกล่าว แต่ไม่สามารถจะตกลงปัญหารักสามเส้าได้ นายจีรวัตรจึงใช้ท่อนเหล็กที่เตรียมมากระหน่ำตีศีรษะนายวาสนาจนล้มลงกับพื้นห้องเลือดอาบ จากนั้นได้ใช้มีดที่พกมาแทงที่ยอดอกซ้ายปักคา ก่อนที่จะลากศพจากหน้าห้องน้ำไปไว้ที่พื้นข้างเตียงนอน และเตรียมตัวที่จะหลบหนี แต่ถูกสายตรวจจับกุมตัวได้เสียก่อน โดยนายจีรวัตร์ให้การสารภาพว่าเพิ่งมารู้ว่าเมียตัวเองยังคงติดต่อกับแฟนเก่า จึงเกิดความไม่พอใจและต้องการที่จะเคลียร์ปัญหาให้จบสิ้นไปข้างๆ จึงให้ น.ส.สุทธิกาโทรนัดกับนายวาสนามาที่ห้อง แต่เกิดบันดาโทสะ เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงใช้ท่อนเหล็กตีที่ศีรษะและใช้มีดแทงที่ยอดอก จากนั้นกำลังจะขี่รถ จยย.ออกจากห้องพัก แต่ถูกสายตรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด ...
Posted by : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์
ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งไม่นึกเลยส่งสารโกหลี่มากเพราะแกเป็นคนดีมากต่อสังคมเป็นคนอารมณ์ดีและก็อยู่บ้านในซอยเดียวกัน คนที่ฆ่าก็ขอให้รับกรรมไม่น่าทำกันอย่างนี้เลยคนไทยด้วยกันแท้ๆ แต่ก็ขอให้โกหลี่ไปสู่สุขคตินะคะ
ตอบลบหนึ่งคน หนึ่งชีวี มีหนึ่งพ่อ แม้ลูกขอ ติดเพื่อน อย่าสงสัย
ตอบลบเพื่อนมีเยอะ หาได้หาก มิตายไป แต่ในใจลูกรักพ่อที่สุด.....เล๊ย!!
วันพ่อปีนี้คงไม่ได้กอดพ่ออีกต่อไป
ตอบลบคุณยังโชคดีนะ ที่ได้กอดพ่อจริง ๆ เข้าไปกอดพ่อ
บอกรักท่านกันเถอะ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสกอดท่าน
เหมือนกับผม
ขอให้คุณพ่อทุกท่าน จงมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง
และอยู่เป็นมิ่งขวัญของลูก ๆ ตลอดไป
รักพ่อครับจากลูก
สุกที่รัก
น้ำตาเอ่อ คลอเบ้า เคล้าสะอื้น
ไม่อาจฝืน น้ำตา คราหลั่งไหล
พ่อสุดรัก สุดหวง ดั่งดวงใจ
ต้องจากไป ทิ้งร่างไว้ ไร้วิญญาณ
ยังไม่ทัน เห็นใจ พ่อไปก่อน
ลูกมัวนอน หลับไหล ให้ฝันหวาน
คิดไม่ถึง ด่วนจากไป ไกลแสนนาน
ยามวิกาล รับทราบข่าว เกือบตอนค้ำ
พระคุณพ่อ แสนยิ่งใหญ่ มีให้ลูก
เป็นสิ่งผูก สายใย ให้เฉลียว
สร้างความรัก ความผูกพัน อันกลมเกลียว
อยู่ดายเดียว เมื่อพ่อพราก จากลูกไป
ในวัยเด็ก พ่อสอนสั่ง ลูกยังดื้อ
ร้องไห้ฮือ พ่อปลอบโยน จนหลับไหล
ชอบออดอ้อน ทุกคืนค่ำ อยู่ร่ำไป
พ่อคือใจ ของลูก ผูกสัมพันธ์
เข้าวัยเรียน เพียรหา เงินมาให้
แม้ลำบาก เพียงใด พ่อไม่หวั่น
ขอเพียงลูก ร่ำเรียน อ่านเขียนทัน
จวบถึงวัน สำเร็จ เสร็จการเรียน
ลูกมีงาน ประจำ ทำงานหลวง
คงเป็นดวง ของชีวิต ลิขิตเขียน
เงินเดือนออก ไม่ให้ตังค์ ยังเบียดเบียน
ไม่ติเตียน เพียงบอกให้ ใช้ระวัง
กลับบ้านดึก พ่อชะเง้อ ใจเพ้อหา
ลูกไม่มา ตาไม่หลับ กลับหันหลัง
ลูกเที่ยวเตร่ ดื่มเหล้า เมาเสียงดัง
ไม่ชิงชัง คำว่าลูก ทำทุกข์ตรม
จากวันนี้ ไม่มีพ่อ คอยห่วงหา
หยดน้ำตา ลูกรินไหล ให้ขื่นขม
กราบเท้าพ่อ ครั้งสุดท้าย ใจระทม
แทบเป็นลม ใจสลาย อยากตายแทน