วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ทัพเรือภาค 3 ลงนาม MOU กับจังหวัดภูเก็ต

 เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (3 ก.พ.) ที่โรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ระหว่างจังหวัดภูเก็ตโดย นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และทัพเรือภาคที่ 3 โดย พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน

นายวิชัย ไพรสงบ ผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนั้น ด้วยมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 และตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้กำหนดเรื่องการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยภายในเขตทหาร หรือที่เกี่ยวกับกิจการ เจ้าหน้าที่ หรือทรัพย์สินในราชการทหารให้เป็นไปตามข้อตกลงเป็นหนังสือร่วมกันระหว่างผู้อำนวยการจังหวัดหรือผู้อำนวยการกรุงเทพมหานครและผู้บังคับการบัญชาของทหารในเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง

"การลงนามดังกล่าวจะทำให้เกิดการทำงานที่ชัดเจนในการช่วยเหลือด้านการป้องกันสาธารณภัยต่างๆ ระหว่างฝ่ายทหารกับพลเรือน โดยเฉพาะกรณีของอุบัติภัยทางทะเลซึ่งทหารสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังจะทำให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกันทั้งในเรื่องของบุคลากรและอุปกรณ์ซึ่งจะทำให้การปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และไม่เกิดความซ้ำซ้อน"

นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภูเก็ตถือเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมมากในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งบุคลากร อุปกรณ์ สถานพยาบาลและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากที่ผ่านมาเรามีประสบการณ์ช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติต่างๆ เช่น ภัยสึนามิ อุบัติเหตุเครื่องบินวันทูโกลื่นไถลจากรันเวย์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามแม้จะมีประสบการณ์มาแล้ว แต่ก็จะต้องมีการฝึกซ้อมการช่วยเหลือโยสมมุติสถานการณ์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของบุคลากรและอุปกรณ์ ตลอดจนการสั่งการต่างๆ

ขณะที่ พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 3 มีพื้นที่รับผิดชอบดูแล 6 จังหวัดในฝั่งทะเลอันดามัน โดยในส่วนของภูเก็ตมีพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ ขณะที่จังหวัดอื่นๆ จะดูแลเฉพาะพื้นที่อำเภอซึ่งมีที่ตั้งติดทะเลเท่านั้น ทั้งนี้ภายหลังจากลงนามบันทึกข้อตกลงกับทางจังหวัดภูเก็ตแล้วก็จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงในจังหวัดอื่นๆ ที่เหลือต่อไป เพราะการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นเรื่องที่จำเป็นและมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังสามารถลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด

Posted by : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น