วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ฆ่าสาวนิรนามยัดกระเป๋าทิ้งป่าละเมาะข้างโชว์รูมฮอนด้า...

เมื่อเวลา 08.45 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) ร.ต.ท.สมชาย หนูบุญ ร้อยเวร สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพคนถูกฆ่าตายยัดใส่กระเป๋าเดินทางทิ้งไว้ริม ถ.เจ้าฟ้าตะวันตกตัดใหม่ ต.วิชิต อ.เมือง จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงษ์ ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.สภ.เมืองภูเ็ก็ต พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รอง.ผกก.สส. พ.ต.ท.สมคิด บุญรัตน์ รอง.ผกก.สส.ภ.จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.วิจักษณ์ ตารมย์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง นวท.(สบ 2) พฐ.จ.ภูเก็ต นำกำลังชุดสืบสวน-มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัยรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกิดเหตุเป็นถนนตัดใหม่ผ่านขุมเหมืองเก่าเพื่อเลี่ยงเข้าตัวเมืองภูเก็ตออกข้างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ตมุ่งหน้าไปยัง อ.กะทู้ ห่างจากบริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด โชว์รูมขายรถยนต์ฮอนด้าราว 1 กม.โดยมีชาวบ้านที่ขับรถผ่านจอดรถดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก

จากการตรวจสอบที่บริเวณริมป่าละเมาะข้างทางลึกลงไปจากถนนราว 1 เมตรพบกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงินกว้าง 50 ซม.ยาว 75 ซม.หนา 25 ซม. ยี่ห้อ Samsonlta ถูกเปิดอ้าออก โดยมีถุงพลาสติกสีดำถูกฉีกขาดจนเห็นเนื้อบริเวณก้นของซากศพที่ยื่นออกมาจากตัวกระเป๋ากำลังเน่าและส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว มีแมลงวันตอมอยู่ทั่วกระเป๋า 

จากนั้นมูลนิธิฯ จึงได้นำร่างขึ้นมาบนถนนเพื่อชันสูตร พบศพหญิงสาวชาวเอเซียสูงราว 150-155 ซม.อายุราว 20-25 ปี น้ำหนักประมาณ 45-50 กก.ผมดำยาวปะบ่าสภาพเปลือยล่อนจ้อนถูกจับโกงโค้งอยู่ในถุงพลาสติกสีดำอีกชั้น ก่อนยัดลงกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าว 

จากการตรวจสอบพบบาดแผลคล้ายถูกของมีคมแทงที่กลางร่องอกจำนวน 1 แผล และที่ท้ายทอยอีก 1 แผล บริเวณหน้าท้องโตยื่นออกมาคล้ายหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ นิ้วขวาสวมแหวนเงินรูปหัวใจ 1 วง โดยไม่พบรอยสักหรือหลักฐานว่าผู้ตายเป็นใคร มาจากที่ใด เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน จึงมอบศพให้มูลนิธิฯนำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ผ่าชันสูตรอย่างละเอียดหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง

จากการสอบถาม นายประสิทธิ์ ไกรเกตุ อายุ 35 ปี รปภ.บริษัท วีเอสเอ็นเซอร์วิส จำกัด ซึ่งดูแลความปลอดภัยให้กับโชว์รูมรถยนต์ฮอนด้าภูเก็ตทราบว่า ก่อนพบศพได้ขี่รถ จยย.ออกมาจากบ้านพักบริเวณหลังมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เพื่อจะไปทำงานที่โชว์รูมดังกล่าว แต่เมื่อขี่รถมาถึงบริเวณดังกล่าวได้กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากศพถูกทิ้งไว้ริมถนน จึงได้จอดรถลงไปดูแล้วใช้ไม้เขี่ยกระเป๋า จนซิปแตกและเห็นเนื้อคนคล้ายบริเวณสะโพกหรือก้นยื่นออกมาจากถุงดำ จึงรีบโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

ทางด้านการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า เหยื่ออาจถูกฆ่าแล้วยัดลงกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าวมาจากที่อื่น โดยคนร้ายอาจมีไม่ต่ำกว่า 2 คน เพื่อช่วยกันยกกระเป๋าจากจุดที่ใช้สังหารเหยื่อขึ้นรถ โดยยานพาหนะอาจเป็นรถเก๋งหรือรถกระบะ เมื่อมาถึงบริเวณถนนสายดังกล่าว ซึ่งเหมาะแก่การทิ้งหรืออำพรางศพ เนื่องจากเป็นขุมเหมืองเก่าและมีต้นไม้ขึ้นหนาทึบโดยรอบ ไม่มีบ้านเรือนตลอดแนวและเปลี่ยว จึงเหมาะแก่การใช้ทิ้งศพ จนกระทั่งมี รปภ.มาพบดังกล่าว

ส่วนสาเหตุการฆ่าโหดสาวเปลือยรายนี้ตำรวจยังคงพุ่งประเด็นหลักๆ ไปที่เรื่องชู้สาวและฆ่าปิดปาก เนื่องจากสภาพศพเบื้องต้นคาดว่าผู้ตายอาจกำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากพบว่าหน้าท้องโตผิดปกติ แม้ว่าสภาพศพภายนอกเน่าแล้วก็ตาม จึงอาจเป็นชนวนเหตุของการสังหารเหยื่อ โดยคนร้ายอาจเป็นสามีหรือแฟนหนุ่มจับได้ว่าผู้ตายคบชู้หรือมีกิ๊กจนตั้งท้อง จึงฆ่าทิ้งหรือผู้ตายอาจไปรู้เรื่องบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้คนร้ายอาจจะเดือดร้อนหรือถูกจับ ทำให้คนร้ายจำเป็นต้องฆ่าปิดปาก เพื่อป้องกันความลับรั่วไหล ส่วนกรณีข่มขืนแล้วฆ่าเปลือยเหยื่อยัดใส่กระเป๋าเดินทางนั้น ตำรวจยังไม่ได้ตัดทิ้ง แต่ต้องรอผลการตรวจหาอสุจิจากแพทย์ก่อน

ทางด้าน พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า จากสภาพที่เกิดเหตุเชื่อได้ว่าคนร้ายได้ลงมือฆ่าผู้ตายมาจากที่อื่น ซึ่งไม่ได้ลงมือฆ่าบริเวณจุดที่พบศพอย่างแน่นอน โดยคนร้ายได้ใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะบรรทุกกระเป๋าใบดังกล่าวมาโยนทิ้งในช่วงกลางคืน เนื่องจากจุดที่พบศพเป็นที่เปลี่ยว มีป่าล้อมรอบไปทั่วบริเวณ ประกอบกับช่วงกลางคืนจะมืดสนิท ขณะนี้ได้สั่งให้ชุดสืบสวนออกสืบหาแหล่งที่มาของกระเป๋าเดินทางที่ใช้ใส่ศพตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าชั้นนำ เพราะกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าวเป็นยี่ห้อที่ค่อยข้างมีชื่อเสียงและราคาแพง โดยได้มีการตรวจสอบไปตาม สภ.ต่างๆ ในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบบุคคลสูญหาย 

ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นตั้งประเด็นไว้ 2 เรื่องหลักๆ คือ ชู้สาวและฆ่าปิดปากหรือชำระแค้น ซึ่งคงต้องขอเวลาในการสืบสวนสอบสวนสักระยะถึงจะสามารถคลายปมสังหารดังกล่าวได้ โดยในเบื้องต้นต้องสืบให้ได้ว่าผู้ตายเป็นใคร เพื่อเชื่อมโยงกับบุคคลหรือคาดว่าอาจเป็นคนร้ายได้เสียก่อน จากนั้นจะได้รวบรวมหลักฐานสู่การจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายในที่สุด ...

----------------------------------------------------------
ภาพข่าวโดย : กอล์ฟ ไทยรัฐ 
Posted by : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น