วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เงื่อนไขที่ทำให้อยู่กันยาก...!!!

ที่ผ่านมาพูดมาทุกครั้ง ย้ำมาตลอดว่าการเมืองมีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ส่วนมากเบื้องหลังก็มักจะแตกต่างจากเบื้องหน้าราวฟ้ากับเหว...

เรื่องการดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเครือข่ายที่ถูกมองว่าเป็นศัตรูของกลุ่มอำมาตย์ เป็นอีกเรื่องที่เบื้องหน้ากับเบื้องหลังต่างกันยิ่งกว่าฟ้ากับเหว

เอกสารลับหลายฉบับถูกนำมาเปิดเผยตั้งแต่สมัย คมช. ยังเรืองอำนาจ ทุ่มใช้ทั้งสรรพกำลังและงบประมาณในการไล่ล่าแบบถอนรากถอนโคน แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้มาก

เสียดายอยู่หน่อยตรงที่ประชาชนหมู่มากยังคิดว่าธุระไม่ใช่ ไม่ค่อยสนใจ พวกที่ถือครองอำนาจอยู่ในตอนนี้เลยได้ใจ คิดจะทำอะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้องนึกถึงหลักการ ความถูกต้อง ความยุติธรรม และศีลธรรม

น่าเสียดายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พวกนักการเมืองที่หน้ามืดตามัว ทำตัวเป็นทาสรับใช้เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์และอำนาจที่กองอยู่ตรงหน้า ซึ่งพฤติกรรมที่แสดงออกมาช่างแตกต่างกับภาพลักษณ์ที่ดูดีราวขาวกับดำ

เรื่องข้อมูลลับ เอกสารลับ จะว่าไปแล้วประเทศไทยต้องถือเป็นเมืองแปลกที่สุดของโลก เพราะเมื่อใดก็ตามหากมีคนนำเอกสารลับ ข้อมูลลับออกมาเปิดเผย คนที่ถือครองอำนาจอยู่ ประชาชนส่วนมาก และสื่อสารมวลชน จะไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือสนใจกับเนื้อหาของเอกสารลับหรือข้อมูลลับมากนัก

แต่สิ่งที่จะพูดกันมากคือ เอามาจากไหน เอามาได้อย่างไร คนเอามาเปิดเผยจะต้องมีความผิดและได้รับโทษ...

ส่วนเรื่องความชั่วช้าเลวทรามที่ปรากฏอยู่ในเอกสารลับ ข้อมูลลับ ทุกคนต่างมองข้ามกันไปหมด ไม่มีใครพูดถึง ไม่มีใครพิสูจน์ว่าเป็นจริงอย่างที่มีการนำมาเปิดเผยหรือไม่

นี่จึงเป็นหนทางแห่งความเสื่อมของประเทศไทย เพราะทุกคนยอมก้มหัวให้กับผู้ถือครองอำนาจหมด คนที่เป็นใหญ่ในบ้านเมืองนี้คิดอยากจะทำอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องคิดถึงกฎหมาย กติกาสังคม ส่วนคนที่จะต่อสู้กับฝ่ายถือครองอำนาจต้องต่อสู้อยู่ในกรอบของกฎหมาย

นี่เองจึงเกิดคำฮิตติดปากของมวลชนที่รักในความถูกต้องและความยุติธรรมว่า “พวกมึงทำอะไรไม่ผิด พวกกูทำอะไรก็ผิด”

นี่ไม่ใช่ประโยคที่เกินเลย เพราะพิสูจน์มาแล้วจากหลายเหตุการณ์ ทั้งที่ตัดสินเป็นคดีความสิ้นสุดกันไปแล้วและที่กำลังดำเนินการกันอยู่

ประชาชนคนไทยล้วนรับรู้และรับทราบเหมือนกันว่า หากเป็นฟากหนึ่งจะตัดสินง่าย เร็ว สรุปว่า "ผิด"

แต่หากเป็นอีกฟากหนึ่ง เวลาผ่านไปเป็นปีๆ ก็ไม่มีความคืบหน้า ทั้งดอง ทั้งดึง สารพัดวิธีเพื่อช่วยกันหาทางออก
แม้บางครั้งหาเหตุผลที่เหมาะสมไม่ได้ก็แถกันไปหน้าด้านๆแบบไม่อายฟ้าดิน

หากทิศทางของบ้านเมืองยังเป็นอย่างนี้อยู่ต่อไป และหากคนไทยเปิดหูเปิดตากับข่าวสารมากขึ้น คิดถึงส่วนรวมและบ้านเมืองมากขึ้น นี่จะเป็นเงื่อนไขให้อยู่กันยาก

เห็นทีการเปลี่ยนแปลงจะหลีกเลี่ยงความสูญเสียไม่พ้นก็คราวนี้...

Posted by : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น