เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 4/2552 โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น แรงงานจังหวัด พาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด เป็นต้น ผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
สำหรับการประชุมในครั้งนี้เป็นการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับผลการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประจำปี 2553 ซึ่งจะมีการประกาศใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2553 แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการค่าจ้างกลาง โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอให้มีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 9 บาท นอกจากนี้ยังได้มีการนำเสนอภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต ช่วงปลายปี 2552 ดัชนีราคาผู้บริโภคจังหวัดภูเก็ต ช่วงไตรมาสที่ 4 เปรียบเทียบปี 2551-2552, ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศและอัตราการเปลี่ยนแปลง ไตรมาสที่ 4, ข้อมูลการลงทุนด้านอุตสาหกรรม ช่วงไตรมาสที่ 4, ข้อมูลเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว โดยรวมช่วงปลายปี 2552, ข้อมูลสถิติการเข้า-ออกงานของลูกจ้าง ช่วงไตรมาสที่ 4, ข้อมูลสถานการณ์การมีงานทำ การจ้างงาน และการขึ้นทะเบียนประกันการว่างงาน และการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองแรงงานเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
ทั้งนี้ นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ ผู้ช่วยพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดภูเก็ต ช่วงปลายปี 2552 ว่า ภาวะเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดภูเก็ตในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2552 ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยพิจารณาได้จากอุปทานของจังหวัด ได้แก่ภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจหลักของจังหวัด และภาคการเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันอุปสงค์ด้านการลงทุนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนอุปสงค์ด้านการอุปโภคบริโภคของจังหวัดยังคงชะลอตัว
ภาคการบริการและการท่องเที่ยว ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2552 ขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดือนที่ผ่านมาและช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ประกอบกับภาครัฐและเอกชนมีการจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีเที่ยวบินขาเข้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60-70%
ส่วนของภาคการค้าและการลงทุน มีโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้ลงทุนจากคณะกรรมการลงทุนในช่วงเดือนมกราคา-พฤศจิกายน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน 27.27% ส่วนเงินลงทุนลดลง 90.50 โดยมีโครงการที่ได้รับการอนุมัติ 8 โครงการ เงินลงทุน 903 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มด้านการลงทุนคาดว่าจะขยายตัวจากแรงหนุนด้านเศรษฐกิจโลกที่เริ่มผ่อนคลาย และจากการที่รัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 หรือมาตรการปฎิบัติการไทยเข้มแข็งที่มีความชัดเจนและมีความก้าวหน้า ซึ่งจะส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุน นายอาวุธกล่าว ...
Posted by : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น