วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แห่โลงร้องผู้ว่าฯ วิฯเหยื่อลักทรัพย์


ญาติแห่ศพเหยื่อวิสามัญฯขอความเป็นธรรม ผู้ว่าฯภูเก็ต ระบุตำรวจทำเกินกว่าเหตุ พ่อเมืองรับดูแลให้ พร้อมมอบเงิน 10,000 บาทให้ลูกชายผู้ตายเป็นทุนการศึกษา สั่ง ผู้การภูเก็ตเร่งหาข้อเท็จจริง

เมื่อเวลา 10.20 น.วันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่บริเวณทางขึ้นศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ได้มีกลุ่มชาวบ้านนับสิบคน พร้อมเขียน ข้อความบนป้ายกระดาษ "ฆ่าพ่อหนูทำไม" และ "ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ" พร้อมใช้รถยนต์กระบะบรรทุกโลงศพ นายองอาจ รอดประดิษฐ์ อายุ 32 ปี เหยื่อที่ถูกชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตวิสามัญฆาตกรรมหลังร้านเช่าพระไม่มีชื่อ-เลขที่ ตรงข้ามร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาสวนหลวง ร.9 ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต ช่วงบ่ายวันที่ 23 พ.ย. เพื่อขอความเป็นธรรมต่อ นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายวิชิต รอดประดิษฐ์ อายุ 55 ปี บิดาของนายองอาจ และ เด็กชายอนุพนธ์ รอดประดิษฐ์ อายุ 12 ปี บุตรชายนายองอาจนั่งร้องไห้อยู่ข้างโลงศพ

นายวิชิต รอดประดิษฐ์ บิดาของนายองอาจ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ยอมรับว่าลูกชายตนอาจหลงผิดทำตัวเป็นโจร แต่ไม่เคยไปทำร้ายหรือฆ่าใครมาก่อน ผิดก็จับมาลงโทษไปตามกฎหมาย ไม่ใช่มายิงทิ้งตามอำเภอใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ มีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์พฤติกรรมของตำรวจที่ลงมือฆ่าลูกชายตนเป็นจำนวนมาก แต่ไม่อยากจะมายุ่งเกี่ยว เพราะเกรงลำบากไปด้วย อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า หลังตำรวจวิ่งไล่จับผู้ต้องหาได้แล้ว ลากตัวไปที่หลังร้านเช่าพระบริเวณที่เกิดเหตุและลงมือซ้อมจนเหยื่อใบหน้าบวมช้ำและยกมือไหว้ขอชีวิต แต่ตำรวจไม่ยอม กระทั่งเสียชีวตดังกล่าว

บิดาเหยื่อร้องขอความเป็นธรรมใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1.หากมีโจรลักเล็กขโมยน้อยเช่นเดียวกับลูกชายของตนเอง ตำรวจจะยิงทิ้งทั้งจังหวัดหรือไม่ 2.ตำรวจเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ตัดสินยิงชีวิตประชาชนทิ้ง และ 3.หากมีตำรวจคิดตัดสินคดีด้วยวิธีเช่นนี้ จะมีศาลยุติธรรมไว้เพื่ออะไร

"ความจริงเมื่อจับตัวลูกชายได้แล้ว ทำไมไม่เอาตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย หมายจับที่ตำรวจบอกว่ามีก็ให้ดำเนินการไป ลูกชายทำผิดก็ต้องติดคุก เพื่อชดใช้กรรมจากการกระทำ แต่ไม่ใช่มาตายเพื่อชดใช้กรรม เหตุที่ก่อก็เป็นเพียงคดีลักทรัพย์ ไม่ใช่คดีฆ่าข่มขืนใคร จึงอยากให้ ผู้ว่าฯภูเก็ตในฐานะพ่อเมืองสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และให้ความเป็นธรรมกับคนตาย พร้อมดำเนินคดีกับตำรวจที่ก่อเหตุด้วย โดยจะตั้งศพลูกชาย สวดอภิธรรมที่วัดโฆษิตวิหาร อ.เมืองภูเก็ต แต่จะไม่เผาศพจนกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะกระจ่างชัด" นายวิชิตกล่าว

ต่อมา นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางมาพบกับนายวิชิตและกลุ่มชาวบ้าน เบื้องต้นได้มอบเงินส่วนตัว จำนวน 10,000 บาท ให้แก่เด็กชายอนุพนธ์บุตรชายนายองอาจไว้เป็นทุนการศึกษาพร้อมกับรับหนังสือขอความเป็นธรรมดังกล่าว พร้อมรับปากว่าจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะการวิสามัญฆาตกรรม จะต้องมีหลายฝ่ายร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และร่วมกันชันสูตรศพ จากนั้นทุกฝ่ายจะต้องต่างคนต่างสรุปเหตุผลแล้วนำเข้าสู่ขบวนการยุติธรรม หากพบหลักฐานว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ก็จะมีการดำเนินคดีทางวินัยและอาญาตามกฎหมาย เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป โดยตนได้มอบให้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ทำให้นายวิชิตและญาติๆ พอใจนำโลงศพกลับไปตั้งไว้ที่วัดตามเดิม

ทางด้าน พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งข้อหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงมือวิสามัญฯไปแล้วในข้อหาฆ่าผู้อื่น ทุกอย่างอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการฯที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุหลายฝ่าย เช่น พนักงานอัยการ ปลัดอำเภอ แพทย์ร่วมกันเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุและร่วมกันชันสูตรศพ โดยตำรวจไม่ได้เป็นผู้เก็บหลักฐานแต่เพียงฝ่ายเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นก็ว่ากันไปตามหลักฐาน หากตำรวจทำเกินกว่าเหตุจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ...


ที่มา : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น