"เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการชม"
ท่ามกลางยุทธการ "ชิงกระแส" ที่แต่ละฝ่าย "ปล่อยของ" ใส่กัน
ฝั่งหนึ่งฝ่ายถืออำนาจรัฐ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) นำทีมแถลงโชว์คณะทูตนานาประเทศ ให้รับรู้กันทั่วโลก
ในฉาก "คลังแสงย่อยๆ" ที่เต็มไปด้วยกองระเบิด ปืน กระสุน อาวุธสงครามร้ายแรงนานาชนิดจำนวนมากมายก่ายกองที่ยึดได้ หลังเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์เวทีชุมนุมแยกราชประสงค์ของกลุ่ม นปช. ว่ากันถึงขนาดยืนยัน "คาร์บอมบ์" ของจริงพร้อมใช้ประทับภาพ "ก่อการร้าย" กองทัพเสื้อแดง
ขณะที่อีกฝั่ง ฝ่าย "จำเลยสังคม" โดยการแก้ต่างของ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงพร้อมโชว์ภาพถ่าย อ้างมีคลิปวีดิโอที่ได้จากผู้ชุมนุม เป็นช็อตทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้า ยิงใส่ประชาชนในวัดปทุมวนาราม จนเสียชีวิต 6 ศพ ทั้งๆที่เป็นเขตอภัยทาน
ถึงขั้นออกแถลงการณ์ในนามพรรคเพื่อไทย ผ่านทาง นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ตอบโต้การแถลงการณ์ของรัฐบาลที่ระบุว่ามีการจับอาวุธของกลุ่ม นปช. ได้เป็นจำนวนมาก ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย เป็นไปตามที่พรรคได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
รัฐบาลพยายามหาเหตุสร้างความชอบธรรมให้กับการสั่งการใช้กำลังทหาร พร้อมอาวุธสงคราม ร้ายแรงเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ โดยพยายามบิดเบือนว่า ผู้ชุมนุมมีอาวุธ และเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งการแถลงการของรัฐบาลนั้นขัดกับข้อเท็จจริง
ซัดรัฐบาล "จัดฉาก" ใส่ร้ายคนเสื้อแดง
พรรคเพื่อไทยย้อนศรขู่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ ศอฉ.เตรียมสู้คดีในศาลอาญาระหว่างประเทศ กรณีมีคนตายเป็นจำนวนมากจากการปราบกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.
เบิ้ลกันไป ซัดกันมา แล้วแต่วิจารณญาณ ผู้ชมทางบ้านจะเลือกเชื่อใคร
ที่แน่ๆโดยการชิงจังหวะเล่นเร็ว อาศัยช่วงชุลมุน
จับทางจากคิวที่ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ รีบโยนหินตั้งแต่ควันไฟเผาเมืองยังโขมง เสนอกำหนดยุบสภาภายใน 4 เดือน แล้วก็โดนลูกหาบประชาธิปัตย์ด้วยกัน ออกมา "ตีปาก" นายกอร์ปศักดิ์พูดเองเออเองอยู่คนเดียว
ทั้งๆที่สถานการณ์กำลังเข้าทาง สมควรที่นายกฯอภิสิทธิ์จะลากยาวบนเก้าอี้ต่อไป
ประชาธิปัตย์ชงเองกินเอง แล้วก็เป็นคนนอกพรรคยี่ห้อ "บิ๊กเติ้ง" นายบรรหาร ศิลปอาชา หลงจู๊ใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนา รีบออกมารับมุก รัฐบาลต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป ยังไงก็ไม่ทันวันที่ 14 พฤศจิกายน
อาศัยเหลี่ยมเซียน พลิกจังหวะตื๊ออยู่ยาวกันเนียนๆ
เอาเป็นว่า ยังไม่พูดถึง "ช็อตล้มกระดาน" ศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีการใช้เงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาทผิดวัตถุประสงค์
"อภิสิทธิ์" จะต่อเวลาไปได้อีกกี่อึดใจ
ก่อนอื่นเลยกับคำถาม รัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไรกับชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์
ในฐานะผู้นำรัฐบาลพลเรือน ที่มีอำนาจสั่งการทหารเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนฝ่ายต่อต้าน จนมีผู้เสียชีวิตที่นับจำนวนได้ไต่ขึ้นเกือบหลักร้อย ผู้บาดเจ็บที่เกินหลักพัน
"อภิสิทธิ์" มีแค่คำว่า "เสียใจ"
และโดยมาตรฐานนี้ มันจะเป็นบรรทัดฐานต่อไป ฝ่ายถืออำนาจในวันข้างหน้า จะถือเอาเป็นแบบฉบับในการปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาล
ที่แน่ๆ ในสถานการณ์เกมอำนาจประเทศไทย แนวโน้มหลังเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ โดยกระแสและบาดแผลในหัวใจของฝ่ายเสื้อแดง ที่ถูกผลักไสให้รวมตัวเกาะกันแน่นในภาคอีสาน ภาคเหนือ รวมถึงพื้นที่โซนแดงในจังหวัดภาคกลาง และกรุงเทพฯเขตรอบนอก
โอกาสสูงที่พรรคเพื่อไทยจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายครองอำนาจ
แล้วตามวัฏจักร ก็จะเป็นฝ่ายประชาธิปัตย์ที่แท็กทีมกับคนเสื้อเหลือง กลับไปเป็นฝ่ายจัดม็อบไล่ล้มล้างขุมข่ายอำนาจนายใหญ่
ถ้าปราบม็อบแล้วคนตายไต่ขึ้นหลักร้อย โดยที่ผู้นำยังนิ่งอยู่ได้ รัฐบาลยังตื๊ออยู่ต่อไปด้วยข้ออ้างถ้ายุบสภาหรือลาออก จะทำให้พวกป่วนเมืองลอยนวล
มุกนี้ พวกจ้องใช้กำลังเข้าปราบยิ้มมุมปากเลย...
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
ท่ามกลางยุทธการ "ชิงกระแส" ที่แต่ละฝ่าย "ปล่อยของ" ใส่กัน
ฝั่งหนึ่งฝ่ายถืออำนาจรัฐ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) นำทีมแถลงโชว์คณะทูตนานาประเทศ ให้รับรู้กันทั่วโลก
ในฉาก "คลังแสงย่อยๆ" ที่เต็มไปด้วยกองระเบิด ปืน กระสุน อาวุธสงครามร้ายแรงนานาชนิดจำนวนมากมายก่ายกองที่ยึดได้ หลังเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์เวทีชุมนุมแยกราชประสงค์ของกลุ่ม นปช. ว่ากันถึงขนาดยืนยัน "คาร์บอมบ์" ของจริงพร้อมใช้ประทับภาพ "ก่อการร้าย" กองทัพเสื้อแดง
ขณะที่อีกฝั่ง ฝ่าย "จำเลยสังคม" โดยการแก้ต่างของ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงพร้อมโชว์ภาพถ่าย อ้างมีคลิปวีดิโอที่ได้จากผู้ชุมนุม เป็นช็อตทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้า ยิงใส่ประชาชนในวัดปทุมวนาราม จนเสียชีวิต 6 ศพ ทั้งๆที่เป็นเขตอภัยทาน
ถึงขั้นออกแถลงการณ์ในนามพรรคเพื่อไทย ผ่านทาง นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ตอบโต้การแถลงการณ์ของรัฐบาลที่ระบุว่ามีการจับอาวุธของกลุ่ม นปช. ได้เป็นจำนวนมาก ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย เป็นไปตามที่พรรคได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
รัฐบาลพยายามหาเหตุสร้างความชอบธรรมให้กับการสั่งการใช้กำลังทหาร พร้อมอาวุธสงคราม ร้ายแรงเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ โดยพยายามบิดเบือนว่า ผู้ชุมนุมมีอาวุธ และเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งการแถลงการของรัฐบาลนั้นขัดกับข้อเท็จจริง
ซัดรัฐบาล "จัดฉาก" ใส่ร้ายคนเสื้อแดง
พรรคเพื่อไทยย้อนศรขู่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ ศอฉ.เตรียมสู้คดีในศาลอาญาระหว่างประเทศ กรณีมีคนตายเป็นจำนวนมากจากการปราบกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.
เบิ้ลกันไป ซัดกันมา แล้วแต่วิจารณญาณ ผู้ชมทางบ้านจะเลือกเชื่อใคร
ที่แน่ๆโดยการชิงจังหวะเล่นเร็ว อาศัยช่วงชุลมุน
จับทางจากคิวที่ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ รีบโยนหินตั้งแต่ควันไฟเผาเมืองยังโขมง เสนอกำหนดยุบสภาภายใน 4 เดือน แล้วก็โดนลูกหาบประชาธิปัตย์ด้วยกัน ออกมา "ตีปาก" นายกอร์ปศักดิ์พูดเองเออเองอยู่คนเดียว
ทั้งๆที่สถานการณ์กำลังเข้าทาง สมควรที่นายกฯอภิสิทธิ์จะลากยาวบนเก้าอี้ต่อไป
ประชาธิปัตย์ชงเองกินเอง แล้วก็เป็นคนนอกพรรคยี่ห้อ "บิ๊กเติ้ง" นายบรรหาร ศิลปอาชา หลงจู๊ใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนา รีบออกมารับมุก รัฐบาลต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป ยังไงก็ไม่ทันวันที่ 14 พฤศจิกายน
อาศัยเหลี่ยมเซียน พลิกจังหวะตื๊ออยู่ยาวกันเนียนๆ
เอาเป็นว่า ยังไม่พูดถึง "ช็อตล้มกระดาน" ศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีการใช้เงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาทผิดวัตถุประสงค์
"อภิสิทธิ์" จะต่อเวลาไปได้อีกกี่อึดใจ
ก่อนอื่นเลยกับคำถาม รัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไรกับชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์
ในฐานะผู้นำรัฐบาลพลเรือน ที่มีอำนาจสั่งการทหารเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนฝ่ายต่อต้าน จนมีผู้เสียชีวิตที่นับจำนวนได้ไต่ขึ้นเกือบหลักร้อย ผู้บาดเจ็บที่เกินหลักพัน
"อภิสิทธิ์" มีแค่คำว่า "เสียใจ"
และโดยมาตรฐานนี้ มันจะเป็นบรรทัดฐานต่อไป ฝ่ายถืออำนาจในวันข้างหน้า จะถือเอาเป็นแบบฉบับในการปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาล
ที่แน่ๆ ในสถานการณ์เกมอำนาจประเทศไทย แนวโน้มหลังเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ โดยกระแสและบาดแผลในหัวใจของฝ่ายเสื้อแดง ที่ถูกผลักไสให้รวมตัวเกาะกันแน่นในภาคอีสาน ภาคเหนือ รวมถึงพื้นที่โซนแดงในจังหวัดภาคกลาง และกรุงเทพฯเขตรอบนอก
โอกาสสูงที่พรรคเพื่อไทยจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายครองอำนาจ
แล้วตามวัฏจักร ก็จะเป็นฝ่ายประชาธิปัตย์ที่แท็กทีมกับคนเสื้อเหลือง กลับไปเป็นฝ่ายจัดม็อบไล่ล้มล้างขุมข่ายอำนาจนายใหญ่
ถ้าปราบม็อบแล้วคนตายไต่ขึ้นหลักร้อย โดยที่ผู้นำยังนิ่งอยู่ได้ รัฐบาลยังตื๊ออยู่ต่อไปด้วยข้ออ้างถ้ายุบสภาหรือลาออก จะทำให้พวกป่วนเมืองลอยนวล
มุกนี้ พวกจ้องใช้กำลังเข้าปราบยิ้มมุมปากเลย...
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
Posted by : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น