วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ย้อนรอย "เหลือง" จาบจ้วงในหลวง


ช่วงนี้ก็ถือเป็นอีกช่วงหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่มีความพยายามรุกไล่คู่ต่อสู้ด้วยขอกล่าวหา "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และไม่จงรักภักดี" อันเป็นข้อกล่าวหายอดฮิตและเคยใช้ได้ผลมาแล้วในหลายยุค หลายสมัย ในช่วงที่ระบบการสื่อสารและการรับรู้ข้อมูลของประชาชนยังไม่ดีพอ ซึ่งก็ทำให้ผู้ปล่อยข่าว หรือผู้ที่ควบคุมการข่าว ย่อมได้เปรียบในเชิงความรู้สึกของประชาชน

มาถึงยุคนี้ ก่อนหน้าการปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 นั้น ก็มีการระดมสรรพกำลังที่จะล้ม "รับบาลทักษิณ" ในขณะนั้นให้ได้ โดยการนำของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าของสื่อเครือผู้จัดการ และพวกในนามของ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพรรคการเมืองฝ่ายค้านอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ดูเสมือนว่า หากไม่สามารถล้มทักษิณได้ก็น่าจะมีโอกาสเป็นฝ่ายค้านไปอีกนานแสนนาน เฉกเช่นฝ่ายค้านในมาเลเซีย

แผนการต่างๆ ก็เริ่มดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเรื่อยมา ซึ่งหากจะว่ากันไปแล้ว หลายๆ ครั้งพฤติกรรมการดำเนินการของกลุ่มคนเหล่านั้น มีการลบหลู่ดูหมิ่นและดึงเบื้องสูง แต่เสมือนหนึ่งว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมือง นักวิชาการ และผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้รักสถาบัน กลับเพิกเฉย ทำทองไม่รู้ร้อน ไม่อิหนากับสิ่งที่กลุ่มคนเหล่านั้นได้กระทำ

ลองมาย้อนรอยดูว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น พฤติกรรมเหล่านี้ผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้รักสถาบันนั้น ยังรับกันได้อยู่อีกหรือไม่ และจะดำเนินการอย่างไรกับผู้ที่บังอาจเหล่านั้น

1. การที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นำเอาประเด็นการทำบุญในวัดพระแก้วมากล่าวหาฝ่ายตรงข้าม แล้วจัดทำเสื้อสีเหลือง "เราจะสู้เพื่อในหลวง" ออกขายเอาเงินเข้ากระเป๋าไปหลายสิบล้าน ....


2. กรณี นายสนธิฯ ยื่นฎีกาต่อในหลวง แต่แสดงพฤติกรรมในการอ่านฎีกาด้วยการยืนเท้าสะเอว ...


3. การจาบจ้วงขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน (ม.7)

4. กรณี นายสนธิฯ นำผ้าอนามัยที่ใช้แล้วไปปิดที่ฐานพระบรมรูปทรงม้า อันเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ...

5. การพูดขับไล่ทักษิณให้ลาออก หากไม่ลาออกให้....?....ออกแทน ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว จนกระทั่งอัยการส่งฟ้องศาล แต่ภายหลังการปฏิวัติ ก็มีขบวนการกดดันให้อัยการไปถอนฟ้อง โดนอ้างเพื่อความสมานฉันท์ ...

6. การไม่ยอมเปิดเส้นทางเสด็จในการทำพระราชพิธี บริเวณถนนราชดำเนิน โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและพวกพ้อง ...

7. การที่พันธมิตรฯ ได้นำเอาพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง มาทำเป็นโล่กำบังสำหรับพวกการ์ดในม๊อบที่บุกยดทำเนียบรัฐบาล ...

เหล่านี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่มักอ้างตนว่าเป็นผู้จงรักภักดีต่อสถาบัน แต่กลับมีพฤติกรรมที่ต่ำทราม ทำร้ายชาติ ทำร้ายประชาชน ทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์ของชาติไทย

สิ่งเหล่านี้ไม่ทราบเหมือนกันว่า บรรดา ส.ส., ส.ว.(โดยเฉพาะกลุ่ม 40 ส.ว) กลุ่มทหาร, กลุ่มอำมาตย์, กลุ่มนักวิชาการ, กลุ่มสื่อสารมวลชน, และผู้ที่อ้างตนเป็นพวกจงรักภักดี(แต่เพียงพวกเดียว) จะยังจดจำกันได้บ้างหรือป่าว แล้วพวกท่านดำเนินการอย่างไรกับบุคคลที่บังอาจจาบจ้างสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยบ้างล่ะ

หรือว่าถ้าพวกเดียวกันทำ "ไม่ผิด" ก็จะได้เข้าใจโดยทั่วกัน ...

ที่มา : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น