กลุ่มพิทักษ์ประชาธิปไตยภูเก็ต อัดยับนักการเมืองอัปปรีย์ใช้นักศึกษาเดินเกมกดดันล้มการจัดเสวนา เตรียมยื่นฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย ระบุทำกันเป็นขบวนการมีอาจารย์บางคนร่วมด้วย
นายวิสุทธิ์ ตั้งวิทยาภรณ์ เลขา/ผู้ประสานงาน กลุ่มพิทักษ์ประชาธิปไตยภูเก็ต (พปภ.ภูเก็ต) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต โดย ดร.ประภา กาหยี อธิการบดี มรภ.ภูเก็ต ได้ระงับการขอใช้หอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยเพื่อจัดงานเสวนาประชาธิปไตย "ฝ่าวิกฤติการเมือง แก้วิกฤติท่องเที่ยว" ที่ทางกลุ่มฯ ได้กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า
ในเรื่องดังกล่าวนี้ทางกลุ่มฯ ได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้ดำเนินการประสานการขอใช้สถานที่จากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ซึ่งตนก็ได้มีหนังสือขอใช้สถานที่และดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้องทุกประการ พร้อมจ่ายเงินค่าใช้สถานที่จำนวน 12,000 บาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามใบเสร็จรับเงินมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เล่มที่ 186 เลขที่ 22 ลงวันที่ 9 ต.ค. 2552
จากนั้นก็ได้มีการจัดพิมพ์บัตรเพื่อจำหน่ายยังกลุ่มเป้าหมาย และติดต่อประสานงานเพื่อเชิญวิทยากรและผู้ดำเนินรายการ รวมทั้งติดต่อเรื่องอาหารโต๊ะจีนและวางเงินมัดจำการจัดงานทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของฉากเวที , เครื่องไฟฟ้าสำรอง , เครื่องเสียงพร้อมระบบไฟเวที , การจัดทำวีดีทัศน์เพื่อนำเสนอต่อผู้เข้าร่วมงานให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเสวนา รวมถึงที่พักของผู้เข้าร่วมเสวนาจากต่างจังหวัดและคณะวิทยากร พร้อมตั๋วเครื่องบินของคณะวิทยากรทั้งหมด ซึ่งใช้เงินไปกว่า 300,000 บาท (สามแสนบาท)
ในเรื่องนี้ เมื่อทาง มรภ.ภูเก็ต ได้ตัดสินใจที่จะระงับการจัดงานโดยการทำหนังสือถึงผู้จัดงานในเย็นวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2552 (รับหนังสือ 17.00 น. ที่ร้านครัวครูสะอาด) โดยอ้างเพียงว่ามีนักศึกษากลุ่มหนึ่งพร้อมรายชื่อนักศึกษาอีกจำนวนหนึ่งเข้ายื่นหนังสือคัดค้าน แล้วใช้เป็นเหตุผลว่าไม่ให้มีการจัดงานนั้น การกระทำดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคณะผู้จัดงาน เนื่องจากเป็นการบอกกล่าวในระยะเวลาที่กระชั้นชิดอย่างมาก จนไม่สามารถหาสถานที่อื่นมารองรับการจัดงานที่เตรียมทุกอย่างไว้กว่า 99 % แล้วได้ เป็นความเสียหายที่ไม่อาจประเมินได้โดยเฉพาะด้านความรู้สึกของคณะผู้จัดและผู้ที่จะเดินทางมาร่วมงานที่มีต่อสถาบันการศึกษา ซึ่งควรที่จะมีความเป็นกลางทางการเมืองและที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ก็มีกลุ่มการเมืองเข้าไปใช้สถานที่ดังกล่าวจัดงานทางการเมืองมาแล้วเช่นเดียวกัน
นายวิสุทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า ตนเข้าใจและรู้สึกถึงความขมขื่นใจของท่านอธิการเป็นอย่างดี เมื่อถูกนักการเมืองใหญ่เรียกพบที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตในเช้าวันที่ 30 ตุลาคม จากนั้นมาก็เกิดขบวนการล้มการจัดงานอย่างเป็นระบบ มีอาจารย์คนหนึ่งที่สนับสนุนพรรคการเมืองดังกล่าวเป็นคนชักใยผ่านทาง นายชานนท์ สาระวงศ์ นายกองค์การนักศึกษาภาคปกติ และ นายกัมปนาท ไทยมิตต์ชอบ ประธานสภานักศึกษาภาคปกติ เพื่อให้ดำเนินการล่ารายชื่อนักศึกษาเพื่อเข้ายื่นคัดค้านในทันภายในวันนั้น (30 ต.ค.) เพื่อเป็นเงื่อนไขให้กับตัว ดร.ประภา กาหยี อธิการบดี ใช้เป็นเหตุผลในการระงับการจัดงาน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เป็นการย่ำยีเกียรติภูมิของการเป็นนิสิตนักศึกษาอย่างยิ่ง
ที่สำคัญ เมื่อพิจารณาจากหลักฐานลายชื่อนักศึกษาที่เอามาอ้างจำนวนกว่า 100 รายชื่อนั้น ยิ่งทำให้เข้าใจได้ว่าทั้งหมดมีการทำกันเป็นขบวนการ เนื่องจากเป็นการเขียนชื่อนักศึกษาลงในกระดาษที่จัดเตรียมไว้โดยคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เนื่องจากมีเวลาจำกัดและต้องทำให้เสร็จสิ้นในวันนั้น (30 ต.ค) จึงถือเป็นข้อผิดพลาดและเป็นการจงใจที่จะล้มการจัดงานและสร้างความเสียหายให้แก่คณะผู้จัดงาน ซึ่งในเรื่องนี้ทางคณะผู้จัดได้มอบเอกสารหลักฐานทั้งหมดให้ทนายความเพื่อใช้ในการร่างคำฟ้องมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตต่อศาลจังหวัดภูเก็ตแล้ว คาดว่าภายในเดือนนี้จะสามารถยื่นฟ้องได้ ทั้งนี้เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงของเหตุผลในการล้มการจัดงานให้ปรากฎต่อสังคมต่อไป
สำหรับในส่วนของกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาต่อต้านโดยการรับจ๊อบครั้งนี้นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนเคยเป็นรองนายกองค์การนักศึกษา ภาค กศ.บป. มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต รู้สึกเสียใจต่อการตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของนักศึกษากลุ่มดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง ทั้งๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นกำลังศึกษาในระดับอุดมศึกษา แต่กลับไปฝักใฝ่ต่ออำนาจเผด็จการที่มาบีบบังคับเพียงเพื่อสนองตันหาตัวเองและพวกพ้อง จึงอยากเรียกร้องให้แกนนำทั้งสองลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิขององค์การนักศึกษาและสภานักศึกษา ซึ่งหากไม่เช่นนั้นตนก็จะนำหลักฐานต่างๆ ไปเปิดเผยต่อนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ให้ได้รับทราบถึงพฤติกรรมของคนทั้งสองต่อไป
"สำหรับการล้มการจัดงานครั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นเพราะกลุ่มพันธมิตรฯ หากแต่เป็นเพราะกลุ่มการเมืองพรรคใหญ่ที่เป็นแกนนำรัฐบาลในขณะนี้ ต้องการกดดันให้ทางคณะผู้จัดงานเกิดอารมณ์ และความรู้สึกที่ไม่ดี จนอาจก่อให้เกิดเรื่องหรือสร้างความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งทางคณะผู้จัดเองก็รู้ถึงสันดานของกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงไม่หลงติดกับดักดังกล่าว จึงได้ประกาศเลื่อนการจัดงานออกไป" นายวิสุทธิ์ กล่าวในที่สุด ...
รายงานโดย : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์
ได้ข่าวแล้วรู้สึกท้อแท้กับสถาบันแห่งนี้เหลือเกิน โดยเฉพาะกับนักศึกษาบางกลุ่มที่ไม่ประสีประสา รับใช้การเมืองจนไม่มีความคิดของคนเป็นปัญญาชน วอนนักศึกษาส่วนใหญ่ที่เหลือและยังมีสามัญสำนึกจัดการกับสุนัขรับใช้การเมืองในคราบนักศึกษาด้วย
ตอบลบ