วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553

วิกฤตของ"ทักษิณ"ในวันนั้น สร้างโอกาสให้คนไทยในวันนี้


วิบากกรรมของนายกทักษิณ ที่เดินไปเหยียบตาปลาของพวกเหล่ามหาอำมาตย์ และเหล่าสาวกอำมาตย์ ทำให้ท่านต้องถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นาๆ มาเป็นเวลากว่าสามปี หลายคนมองว่า ท่านตกระกำลำบาก หลายคนว่าท่านสิ้นเนื้อประดาตัว หลายคนว่าท่านต้องระเหเร่ร่อน ไร้แผ่นดินจะอยู่ แต่ถ้าเรานึกถึงสัจธรรมความจริงที่ว่า ในโลกใบนี้ ไม่มีอะไรจะมีด้านเดียวเสมอ เมื่อมีดี ก็ย่อมมีเสีย คู่กันแบบนี้เสมอ

วิบากกรรมของท่านนายกทักษิณ ได้ทำให้คนไทยในวันนี้ ได้เห็นว่าประเทศไทย หาใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง แต่คือประชาธิปไตยซ่อนรูป ว่าประเทศไทยในวันนี้ หาได้ปกครองด้วยอธิปไตยของปวงชนชาวไทย แต่ด้วยอธิปไตยของเหล่ามหาอำมาตย์และสาวกเพียงหยิบมือ ว่าประเทศไทยในวันนี้ มีแต่พวกผู้ดีตินแดง แต่ตะแคงตินเดิน มีคุณธรรมจริยธรรมจอมปลอม มีคุณธรรมจริยธรรมเพียงที่ปาก ที่พร้อมที่จะพร่ำสอนแต่คนอื่น แต่พวกตัวกลับหาได้ทำได้อย่างที่ปากพูดและพร่ำสอนคนอื่นไม่

วิบากกรรมของทักษิณ ทำให้ประชาชนชาวไทย หูตาสว่างมากขึ้นๆ หลายคนถูกกระชากหน้ากากผู้ดี ต่อหน้าประชาชี จากที่เคยเป็นที่รัก ที่ศรัทธา ก็กลายเป็นที่รังเกียจเดียจฉันท์

เพราะแสดงตนอย่างเปิดเผยว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปล้นอธิปไตยของปวงชน

จากที่ไม่เคยมีใครคิดจะแตะต้อง ก็ถูกขุดคุ้ย วิจารณ์ สงสัย สอบถาม ก่นด่า ประนาม ไม่ว่าจะต่อหน้าคือตามเวปไซด์ เวปบอร์ดต่างๆ จนถึงลับหลัง คือการพูดกันในหมู่ครอบครัว และเพื่อนฝูง

วิบากกรรมของทักษิณ ถึงแม้จะมีผลกระทบกับท่าน แต่ก็ส่งผลสะท้อนไปยังมหาอำมาตย์เฉกเช่นเดียวกัน ประเทศไทยในวันนี้ จึงไม่เหมือนกับประเทศไทยเมื่อสามปีที่แล้วอีกต่อไป นับจากวันนี้ต่อไป ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม มหาอำมาตย์ได้ทำให้ตะกอนที่เคยนอนนิ่งๆ อยู่ใต้น้ำกระเพื่อม และฟุ้งกระจายออกมา

วันนี้ หลายสิ่งหลายอย่างในประเทศไทยจึงเปลี่ยนไป นี่คือสิ่งท้าทายทิศทางประชาธิปไตยของประเทศไทยว่าจะเดินไปในทางใด และคำตอบ ก็จะชัดเจนเมื่อฝุ่นตะกอนนั้น ค่อยๆ จางลง และตกตะกอนอีกครั้ง เมื่อนั้น เราก็จะได้รู้ ว่าใครจะอยู่ ใครจะไป

ไม่อำมาตย์ไป ก็ประชาธิปไตยที่ยังไม่เต็มใบต่อไป แต่ในทุกที่ทั่วโลก ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่า ไม่ว่าจะเนิ่นนานเพียงใด ในท้ายที่สุด อำมาตย์เท่านั้น ที่เป็นฝ่ายไป และประชาธิปไตยเท่านั้น ที่จะอยู่ยั้งยืนยง

วิกฤตของทักษิณ จึงเป็นโอกาสของประเทศไทย เป็นพัฒนาการทางประชาธิปไตยที่ประชาชน ออกมาเรียกร้องหาความยุติธรรม และอำนาจที่แท้จริงของตัวเองไม่ใช่อำนาจจอมปลอม ภายใต้อุ้งเท้าและการบงการของมหาอำมาตย์

วิบากกรรมของทักษิณ จึงเป็นเหมือนตัวกระตุ้นกระบวนการพัฒนาการทางประชาธิปไตยของไทย เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกอำนาจซ่อนรูปที่แฝงอยู่ในระบอบประชาธิปไตยจอมปลอมของไทยว่าิสีงเหล่านั้น มีตัวตนอยู่จริง และทักษิณ ได้ชี้ให้คนไทยได้เห็นกันจะๆด้วยคำง่ายๆ สั้นๆ แต่แฝงไปด้วยนัยยะอย่างชัดเจนในนาม ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ

วันนี้ คนไทยได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของมันผู้นั้น ว่าแท้จริง มันคือเหลือบไรของประชาธิปไตย ที่เกาะกุมดูดกินผลประโยชน์และเิงินภาษีของประชาชนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมจอมปลอม ที่พร้อมจะกระทืบและเหยียบคนที่ไม่เห็นด้วย ใ้ห้จมธรนีไปต่อหน้าต่อตา

ทักษิณร่ำรวย มีอำนาจมีบารมีขนาดไหน ยังโดนมันเล่นได้ขนาดนี้ แล้วถ้าตาสีตาสาที่ไม่มีแบบทักษิณ ไปเหยียบตาปลาพวกมันเข้าจะเหลืออะไร ?

วันนี้ เรายังจะยอมหมอบกราบให้กับพวกนอกรัฐธรรมนูญแบบนี้อยู่ต่อไปอีกหรือ?ลูกหลานของพวกเราอีกกี่ชั่วอายุคน ที่จะต้องทนแบบนี้ต่อไปเราจะส่งผ่านประชาธิปไตยจอมปลอมแบบนี้ ต่อไปให้ลูกให้หลานหรือ?

นี่คือคำถามที่ท้าทายคนไทยรุ่นนี้ ว่าอะไร จะคืออนาคตของลูกหลานในรุ่นต่อไป ?

เขียนโดย nainara วันพุธที่ 13 มกราคม 2010 เวลา 09:24 น.

Posted by : ทีมข่าวภูเก็ตอีนิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น